โลกยุคหินเก่า เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายเกี่ยวกับโลกใน ยุคหินเก่า เราได้รวบรวมเรื่องราวที่น่าสนใจ มาให้เพื่อนๆได้รับฟังกันครับ

โลกยุคหินเก่า สำหรับ โลกยุคหินนั้น ถือได้ว่า เป็นหนึ่งใน ช่วงประวัติศาสตร์ ของโลก ที่น่าค้นหาและ มีช่วงระยะเวลา ที่ยาวนาน เป็นอย่างมาก เชื่อกันว่าใน โลกยุคหินเก่านั้น เกิดขึ้นในสมัย 2.5 ล้านปีก่อน เชื่อกันว่า ในสมัยก่อน มีผู้คนอาศัย และ ใช้ชีวิต กันอยู่จริง ในสภาพแวดล้อม ที่เต็มไปด้วย

ความอันตราย ของสัตว์ดุร้ายและ ภัยธรรมชาติ และยังไม่รวมไปถึง ภัยจากสังคมของ หมู่เพื่อนมนุษย์ ด้วยกันอีกด้วย และด้วยสาเหตุ การดำรงชีวิต ของผู้คน ในยุคนั้น ยังไม่รู้จัก การดำรงชีวิต กันเป็นสังคม แต่ถึงแม้ว่า จะยังคงใช้ชีวิต การเป็นอยู่ แบบไม่เป็นสังคม

แต่ในยุคนั้นก็เริ่มที่จะมี ความสัมพันธ์แบบครอบครัวบ้างแล้ว แต่ทว่า ผู้คนในยุคนั้น ก็ยังคงใช้ชีวิต โดยการเป็นนักล่า เพื่อที่จะหาอาหาร มาดำรง ความเป็น อยู่ เติมเต็มปากและ ท้อง เพื่อให้มีชีวิตต่อไป เรียกได้ว่าเป็นยุคที่ ต้องพึ่งพาอาศัยธรรมชาติ ยุคหินหมายถึง

โลกยุคหินเก่า การดำรงชีวิตของกลุ่มคนในยุคหินเก่าเป็นอย่างไร

สรุปยุคหินเก่า สำหรับการใช้ชีวิต ในยุคนั้น ผู้คนจำเป็น ที่จะต้องออกล่าสัตว์ หรือพืชผักผลไม้ เพื่อให้มีชีวิตอยู่รอด จึงจำเป็น ที่จะต้อง ประดิษฐ์อาวุธ เพื่อใช้ในการล่า โดยการที่ประดิษฐ์อาวุธ หรือเครื่องมือ ที่เอาไว้ใช้ ในการทำงานต่างๆ เช่น ตัด ขูด ทุบ หรือแทง

และเพื่อที่ จะให้การทำงาน เป็นไปอย่างเรียบง่าย จึงได้ประดิษฐ์เครื่องมือ หรืออาวุธต่างๆ ขึ้นมา โดยปัญญาประดิษฐ์ในยุคนั้น ผู้คนใช้วัสดุส่วนใหญ่ นั่นก็คือ หิน โดยการนำมา ประดิษฐ์เป็น ฆ้อนหิน มีดหิน หอกหิน หรือเครื่องมือและ อาวุธต่างๆ

ที่จำเป็น ต่อการใช้งาน สำหรับคนในยุคนั้นอาจจะเรียกได้ว่าเป็นกลุ่มคนที่ อยู่ด้วยกันดำรงชีวิต ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่ง ผู้ที่แข็งแกร่งมักจะได้สิ่งที่ ต้องการได้มากกว่าผู้ที่อ่อนแอ ทำให้การใช้ชีวิตและ การดำรงอยู่ ต้องมีการเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา

เพราะไม่ใช่ว่า ทุกอย่างที่มีอยู่ มันจะหามาได้ง่ายๆ แต่ทุกอย่างจำเป็น ที่จะต้อง ใช้แรงและ ทักษะ เพื่อให้ได้สิ่งนั้นมาครอบครอง แต่ด้วยความที่ว่า ยุคหินเก่า เป็น ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาอย่างยาวนานมากๆ จึงทำให้อารยธรรมของ ช่วงระยะเวลานั้น

ไม่อาจระบุแน่ชัดว่า ผู้คนในยุคนั้น มีชีวิตและ การดำรงอยู่มากน้อยเพียงใด เพราะการที่จะต้อง ใช้ชีวิตเหมือนคนเร่ร่อน ตามฝูงสัตว์ ที่มักจะอาศัยอยู่เป็น กลุ่ม ในการล่า และออกหากิน จึงทำให้ผู้คนในยุคนั้น ต้องใช้ชีวิต เหมือนคนเร่ร่อน ออกหาฝูงสัตว์ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา

เพราะเมื่อล่าจนหมดสิ้น ก็จำเป็น ที่จะต้อง หาฝูงสัตว์ใหม่ มาทดแทน จึงทำให้อยู่ไม่เป็น หลักแหล่ง และไม่สามารถระบุได้แน่ โดยหลักการสาเหตุที่ว่า งั้นมาจากการที่ค้นพบ เศษซากโบราณของวัตถุประดิษฐ์ ของผู้คนในยุคนั้น. ที่ค้นพบเจอ เป็นจำนวนน้อยมากๆ ยุคหินใหม่ 

โลกยุคหินเก่า มีอารยธรรมในการใช้ชีวิตดำรงอยู่กันอย่างไร

มนุษย์ยุคหิน ถึงแม้ว่า การใช้ชีวิต ของผู้คนในยุคนั้น อาจจะเหมือน ผู้คนเร่ร่อน แต่อย่างน้อย คนในยุคนั้น ก็ยังสื่อได้ถึง อารมณ์และ แสดงออกมาเป็น รูปประธรรม โดยหลักฐาน การใช้ชีวิต อยู่กันเป็นกลุ่ม ในแบบครอบครัว มีการวาดภาพเป็น งานศิลปะ ที่ค้นพบเจอ

โดยรูปภาพ ของการออกล่า และการดำรง ชีวิตอยู่เป็น กลุ่มครอบครัว โดยภาพนี้ได้ปรากฏขึ้นบนฝาผนังของ ถ้ำ โดยภาพวาดที่ปรากฏขึ้น และ เป็นจุดเด่นสำคัญ ที่ค้นพบเจอจริงนั่นก็คือ ภาพวาดรูปวัวกระทิง ที่ใช้ชีวิตอยู่กันเป็นฝูง ในถ้ำที่มีชื่อว่า อัลตะมิระ

โลกยุคหินเก่า

แน่นอนว่าในยุคนั้น สิ่งมีชีวิตเดียว ที่จะสามารถทำได้ ก็มี แต่มนุษย์เท่านั้น จึงทำให้สามารถ ยืนยันได้ ทันทีว่า ผู้คนในยุคนั้นส่วนใหญ่ ดำรงชีวิต ด้วยการออกล่า สิ่งมีชีวิตที่ มักจะอาศัย อยู่กันเป็นกลุ่ม และ มีการเคลื่อนย้าย อยู่ตลอดเวลา

เพื่อค้นหา แหล่งอาหารใหม่ๆ หากว่าแหล่ง อาหารเดิม ถูกล่าจนหมด แต่ถึงอย่างนั้นผู้คนก็เริ่ม มีวิวัฒนา การที่เปลี่ยนไป ตามช่วงเวลาและ ตามยุคสมัย เพราะเมื่อถัด ออกมาจาก ยุคหินเก่าแล้ว ก็เริ่มเข้ายุคหินกลาง. ยุคหินสําริด ยุคหินเหล็ก

โลกยุคหินกลาง มีการเปลี่ยนแปลงในการใช้ชีวิตที่ต่างจากยุคหินไปอย่างสิ้นเชิง.

โลกยุคหินกลาง โดยโลกยุคหินกลางนั้น ผู้คนส่วนใหญ่ เริ่มมีการใช้ชีวิต ที่เปลี่ยนไป ผู้คนส่วนใหญ่เริ่มมีการ ดำรงชีวิตที่ดีขึ้น นอกจากการออกล่าสัตว์แล้ว ก็เริ่มมีการลงหลักปักฐานให้อยู่ในพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ เริ่มมีการปลูกผัก พืช หรือสิ่งต่าง ๆ

ที่สามารถนำมาเป็น แหล่งพลังงานอาหารได้ ผู้คนในยุคนั้นเริ่มมีการเลี้ยงสัตว์กันมากยิ่งขึ้น จึงทำให้เริ่มมีการอาศัยอยู่กันเป็น กลุ่มชุมชน และ รู้จักกันพัฒนา เครื่องมือเครื่องใช้กันมากยิ่งขึ้น ใช้เงินมีการนำวัสดุจากธรรมชาติมาประดิษฐ์เป็น สิ่งของต่างๆ

ยกตัวอย่างเช่น ตะกร้าสาน และอื่นๆ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็น ยุคที่ผู้คนเริ่มมีพัฒนาการทางสมองกันมากยิ่งขึ้น และ เริ่มรู้จักการเรียนรู้ นำสิ่งใหม่ๆ เข้ามายอมรับกับการเป็น อยู่ที่ต้องยอมรับว่าสภาพแวดล้อมในยุคนั้นสิ่งมีชีวิตเริ่มน้อยลง

เนื่องจากคนในยุคก่อนหน้า ใช้ชีวิตอยู่ในการเป็น นักล่า และ ด้วยการใช้ชีวิตแบบนักล่า และการพิจารณา ให้ง่ายที่สุด ก็คือหน้าสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่เป็น ฝูง ซึ่งสิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ ก็มักจะอาศัยอยู่กันเป็น กลุ่มฝูง จึงทำให้เมื่อถูกล่า สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ ก็จะหายไปในที่สุด จนกระทั่งเข้าสู่จุดวิกฤต นั่นก็คือสูญพันธุ์

โลกยุคหินเก่า

โลกยุคหินกลางเริ่มมีการใช้ชีวิตลงหลักปักฐานเป็นหลักแหล่งกันมากยิ่งขึ้น

เพราะเนื่องจากการสืบพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตย่อมต้องใช้ ระยะเวลาอยู่มาก ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตนั้นด้วย แต่เมื่อมนุษย์หันหน้าเข้าหาสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ มนุษย์จำเป็น ที่ต้องกินอยู่และ ใช้ชีวิตทุกวัน ทำให้ต้องออกหากินในทุกวัน

สิ่งนั้น จึงทำให้สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ สาบสูญและ หายไปในที่สุด จึงทำให้ผู้คนในยุคกลาง เริ่มที่จะเข้าใจ ว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ หากถูกล่าจนหมดสิ้น ก็จะไม่เหลืออีกเลย และ การที่จะให้สิ่งมีชีวิตพวกนี้มีอยู่ได้ ทางออกเดียวก็คือ การเพิ่มจำนวน หรือออกล่าตามฤดู และในขณะเดียวกัน

ก็หาสิ่งที่ทดแทน นำมาใช้ ในการดำรงชีวิต โดยทางออกมันก็คือ การปลูกพืชผัก หรือสิ่งต่างๆ ที่จะนำมาใช้ เป็น แหล่งพลังงานในการดำรงชีวิตของมนุษย์ในทุกๆ วันต่อไป และนี่ก็คือ เรื่องราวการใช้ชีวิตและ การดำรงชีวิตของโลกในยุคหิน

ที่เคยเกิดขึ้นจริงและ ถูกค้นพบจนนำมาเป็น ข้อมูลและ เรื่องราวให้คนยุคหลังได้ทราบกันในวันนี้ หากเพื่อนๆ ท่านใดที่ชื่นชอบก็สามารถติดตามเราต่อต่อไปได้นะครับ ทางนี้ก็ขอขอบคุณเพื่อนๆ ทุกท่านมากที่อ่านมาจนถึงตอนจบ เอาไว้เรื่องราวในครั้งหน้า เราจะมีอะไรที่น่าสนใจ ฝากเพื่อนๆ ติดตามเรากันต่อไปนะครับ โลกยุคกลาง

เหล้าแปลก