โลกยุคกลาง ประวัติศาสตร์ของ ยุโรปในสมัยกลาง มีความเป็นมาอย่างไรบ้าง

โลกยุคกลาง ประวัติศาสตร์โลกยุคกลาง คำว่ายุคกลาง หรือว่า ประวติศาสตร์ และตามหลัง ด้วยยุคสมัยใหม่ กลุ่มนักประวัติศาสตร์ ได้มีการกำหนด ช่วงเวลา ในสมัยกลาง ของสากลของโลก กล่าวถึง การล่มสลาย ของ จักรวรรดิ  ของโรมันตะวันตกว่า

ในปี คริสตศักราช 476 นันเป็นจุด เนื่องจาก ภายหลังเหตุการณ์ ล่มสลายของจักรวรรดิ ซึ่งภายหลัง ได้กลายเป็นจักรวรรดิไบแซนไทน์ การล่มสลาย ส่งผลให้ยุโรป แตกแขนงอนานิคม ไปด้วยจำนวนที่เยอะมาก แบบไม่มีขื่อไม่มีแป ส่งผลให้

ตกเป็นเยื่อ ของผุ้รุกราน จากด้านนอก ในเวลานั้น ที่พึ่งของผู้คน ส่วนใหญ่นั้น เป็นคริสต์ศาสนา อีกทั้งยังเป็น สถาบันอันสูง ที่สุดของยุโรปในสมัยกลาง เมื่อถึง ศตวรรษ ที่สิบห้า หลากหลายชาติ ใน ยุโรป รวมตัวกัน กลายเป็นรัซชาติและต่อมา

ได้พัฒนา และกลาย เป็นประเทศต่าง ๆ จากจากที่จักรวรรดิไบแซนไทม์ ได้ล่มสลายในปี ค.ศ0 1453 ส่งผลให้ความรู้ ของโรมันและกรีกนั้น ได้แพร่กระจายออกไป เกิดการเปลี่ยนแปล และฟื้นฟุ หลากหลายด้าน ไม่ว่า

จะเป็น ศิลป ศิลปะการทำอาหร ศิลปการต่อสู้ และได้เข้าสู้ยุค การฟื้นฟูศิลปในเวลาต่อมา และนับเป็นจุดสิ้นสุด ของสมัยกลางของโลก ต้อนรับโลกยุคสมัยใหม่ ยุคมืดของดนตรี 

โลกยุคกลาง ความเป็นมาของการล่มสลาย ของจักรรรดิโรมัน นั้นเป็นอย่างไร

อังกฤษยุคกลาง จักรวรรดิโรมัน ได้มีการแผ่ขยายออกไป ยังน่านน้ำ เมดิเตอร์เรเนียน และส่งผล ให้มีอนาเขต ที่สูงที่สุด ในศตวรรษที่สอง ด้วยความที่ อาณาจักรโรมันนั้น มีความใหญ่มากจนเกินไป จึงเป็นเหตุให้ยาก มากต่อการปกครอง และส่งผลให้แบ่งจักรวรรดิโรมัน

ออกเป็นตะวันตกและ ตะวันออก ในปีคริสตศักราช 330 ในขณะนั้น จักรพรรดิ คอนาแตนติน ได้ตั้งเมือง ที่มีชื่อว่่า ไบแซนติอุม เป็นเมืองหลวงแห่งใหม่ ที่โรม และได้มีการ ตั้งชื่อให้ใหม่ เป็นโรมใหม่ แต่ถึงอย่างนั้น ผู้คนต่าง ก็เรียกกันว่า

เมืองของพระเจ้าConstantin Constantinople สงครามของชนเผ่า ในเยอรมัน ทั้งในยุโรปกลางทางตะวันออก ซึ่งในปัจจุบัน ส่งเสริมให้ชาวโลก ต่างก็เหนื่อย กันในศตวรรษที่ 4 ชนเผ่าฮั่น ที่มาจากเอเชีย ได้บุกเข้ามา ใน ทวีปยุโรป

และทำการสังหาร ชนเผ่าของเยอรมัน ด้วยความโหดเหี้ยมทารุณ ส่งผลให้ชนเผ่า ของเยอรมันนั้น ลี้ภัยมาอาศัย ในจักรรรดิ เพื่อแลกเปลี่ยนกับ การถูกนำตัวไป เพื่อสู้รบ ปีคริสตศักราช378

การสู้รบที่Adrianople เผ่าวิสิโกธ สามารถเอาชนะ กองทัพโรมัน และทำการยึด แคว้นDacia ซึ่งก็เป็นโรมาเนีย โรมาเนียในยุคปัจจุบัน นับเป็นที่มั่น ดนตรียุคกลาง โลกยุคกลาง

โลกยุคกลาง ประวัติศาสตร์โลกยุคกลาง ศาสนามีผลต่อจักรวรรดิมากน้อยเพียงใด

ในคริสตศักราช 391 จักรพรรดิธีโอโดซิอุ ได้มีการออกกฎหมาย เกี่ยวกับคริสต์ศาสนา ว่าเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวรรดิโรมัน ความเชื่อตาม เป็นความเชื่อตามหลักการ ของศาสนาคริสต์ นั้นได้บรรเทา ความหิวกระหาย

ของสงคราม ของชนชาติโรมัน จนเกือบหมดสิ้น และมีการจ้างวาน อาหารของ เผ่าเยอรมัน เพื่อให้ต่อสู้กับ ชาวเยอรมันด้วยกันเอง และส่งผลให้ กองทัพของเยอรมัน ได้อ่อนแอลง ในเวลาต่อมา พระเจ้าธีโอโดซิอุส

ได้ทำการแบ่ง จักรวรรดิโรมัน ออกเป็นตะวันตกและตะวันออก นับได้ว่าการแบ่งจักรวาล กินการตัดฝั่งที่ ไม่ดีออกไป นั่นก็คือโรมันตะวันตก ซึ่งได้ย่อยยักษ์จากการถูกคุกคาม จากเผ่าอนารยชน ด้วยเหตุนี้ฝั่งตะวันออก

ที่ได้เจริญรุ่งเรือง เนื่องจากได้ทำการค้าขาย กับเส้นทางสายใหม่ ส่งผลให้รอดปลอดภัย กลายเป็นจักรวรรดิไบแซนไทน์ ไปอีกหลายพันปีเลยทีเดียว ในปีคริสต์ศักราช 409 เผ่าแวนดัล ไม่สามารถทน ต่อการโจมตี ของชาวฮั่นได้อีกต่อไป ยุคกลางตอนปลาย

ผู้ที่ทำการโจมตีกรุงโรม จะเป็นใคร

จึงทำการข้าม แม่น้ำไรน์ ซึ่งเป็นน้ำแข็ง ตั้งอยู่ในแคว้นGaul มักจะปล้นสะดม ไปตามเส้นทาง ทำการตั้งรกราก บริเวณคาบสมุทรไอบีเรีย ในปีคริสต์ศักราช 410 พระเจ้าAlaric ของพวกวิซิกอท ได้นำกองทัพ บุกยึดกรุงRome ได้เขาทำลาย

เมืองจนย่อยยับ ส่งผลให้จักรพรรดิHonorius ของจักรวรรดิตะวันตก ทำการยกแคว้น ที่มีชื่อว่า อากีแตน ของ ฝรั่งเศส ในปัจจุบัน ให้จับพวกวิซิกอท ต่อมาพวกมันก็ได้ทำการบุกไอบีเรีย ขับไล่พวกแวนดัล ไปยังแอฟริกา ในปีคริสต์ศักราช 429

พวกแวนดัล พึ่งมาจากแอฟริกา ก็ทำการยกทัพ ทางน้ำโจมตีและทำลายกรุงโรม ในปีคริสต์ศักราช 455 ต่อมาในปี คริสตศักราช 476 Odoacerจากเผ่าเยอรมัน ได้ทำการโจมตีกรุงโรม และทำการปลดจักรพรรดิองคนสุดท้าย

ของทางฝั่งตะวันตก นั่นก็คือ จักรพรรดิRomulus Augustus ส่งผลให้จักรพรรดิ์ ทางฝั่งตะวันตะวันออก ส่งพระเจ้าTheodoric ของชาวOstrogoths เพื่อทำการยึดกรุงโรมคืน แต่ทางธีโอโดริค ก็ทำการตั้งอาณาจักร ในปะเทศอิตาลีด้วยตัวเอง

โลกยุคกลาง

ว่าด้วยเรื่องของยุคมืด มีอะไรที่น่าสนใจ 

ชนเผ่าของเยอรมัน ก็ได้เริ่มเข้ามา แทนที่จักรวรรดิ ของชาวโรมัน ซึ่งก็ได้แก่ ชาวแซ็กซอน และชาวแองเกิลส์ ในประเทศอังกฤษ ชาวแฟรงค์ในประเทศฝรั่งเศส ชาววิซิกอธในสเปน ในแอฟริกา ก็มีชาวแวนดัล ในอิตาลีมีชาวสโตรกอธ

และถึงอย่างนั้น เผ่าพันธุ์จักรวรรดิ ทานตะวันออกนั้น ก็ยังคงยั่งยืนอยู่ แต่สำหรับในยุโรปฝั่งตะวันตก อารยธรรมของโรมัน ก็ค่อยๆสูญหายไป เนื่องจากบ้านเมือง ไม่มีคือแปล ไม่ว่าจะคุณภาพชีวิต หรือจะเป็นด้านการค้าขาย ก็ถดถอยลง

เหลือเพียงแต่ศาสนา ที่ประดิษฐ์มั่นคง ให้ประชาชนเป็นที่พึ่ง จึงเรียกยุคสมัยนี้ กันว่ายุคมืด ซึ่งความจริงแล้ว ไม่ได้เกี่ยวข้อง กับความมืดมน แต่หมายถึงการที่ ทำการบันทึก หรือว่าหาหลักฐาน สำคัญทางประวัติศาสตร์ ได้ค่อนข้างครุมเครือ

จักรพรรดิจัสติเนียน ของชาวโรมันตะวันออก มีความต้องการที่จะรื้อฟื้น จักรวรรดิโรมัน ให้กลับมายิ่งใหญ่ จึงตัดสินใจทำสงคราม เพื่อทำการยึดดินแดน กลับคืนมา ท่านได้ทำลาย อาณาจักรของชาวแวนดัล ในปีคริสต์ศักราช 533

พร้อมกันนั้นพวก ออสโตรกอธ ก็เช่นเดียวกันในปีคริสต์ศักราช 522 แต่แล้วดินแดนที่ ท่านยึดมาได้ ก็มักจะหลุดมือ ไปด้วยความรดเร็ว พอสมควร จากการ รุกรานของ ชาวมุสลิม ในศตวรรษที่เจ็ด และศตวรรษที่แปด 

โลกยุคโบราณ

ของฝากสุดแปลก