โลกตะวันออก ความเข้าใจกับซีกโลกตะวันออก

โลกตะวันออก หากพูดถึง ในควมเข้าใจของ ซีกโลกฝั่งตะวันออก นั่นก็จะเป็นคำ ที่ใช่ในทาง ภูมิศาสตร์ เป็นคำที่เรียก อีกครึ่งของโลกเรานี้ ซึ่งคือฝั่งที่ อยู่ในทิศตะวันออก นั่นเองแหละครับ จะวัดจาก เส้นเมริเดียนแรก กับอีกด้านก็ ทิศตะวันตก เป็นเส้นเมริเดียน ตรงที่ 180 องศา ซึ่งก็จะอยู่ใน อีกฝั่งของโลกครับ ซึ่งฝั่งซีกตะวันออกนั้น ไปใช้กับทาง ทวีปยุโรป ทวีปเอเชีย ทวีปแอฟริกา และก็ออสเตรเลียครับ

จะอยู่ตรงข้ามกัน ของอีกซีก นั่นก้คือฝั่งตะวันตก จะไปหมายถึง ทวีปอเมริกาเหนือ และทวีปอเมริกาใต้ นอกจากเรื่องดินแดน ก็ไปช้ได้ใน ความหมายเรื่อง วัฒนธรรมแต่ละซีกโลก หรือทางภูมิรัฐศาสตร์ เป็นคำที่เขียนต่างกัน แต่ให้ความหาย ที่เหมือนกันอย่าง โลกเก่า นั่นเองครับ

โลกตะวันออก อะไรคือโลกตะวันออก ดินแดนอีกฝั่งที่มีอารยธรรมที่แตกต่าง

ในมุมมองของ คนฝั่งตะวันตก กับควมเข้าในใน โลกตะวันออกนั้นจะ เริ่มจากตรงไหน และมันคืออะไร ในความหมายของพวกเค้า หากใช้แนวคิด จากนิยามของยุโรป ที่ใช้เป็นศูนย์กลาง คำว่าตะวันออก Orient ก็จะมีความหมาย โดยรวมไปถึง อะไรก็แล้วแต่ ที่ได้ตั้งอยู่ใน ฝั่งโลกตะวันออกทั้งหมด

เมื่อนำไปเทียบกับ ทวีปยุโรปแล้วนั้น สังคมคนยุโรป ก็จะเรียกกันว่า Occident หรือแปลเป็นไทยว่า โลกตะวันตก ส่วนของตะวันออกก็ ที่ได้กล่าวไปข้างต้น คือOrient คำนี้มาจาก ภาษาลาตินว่า

อันที่จริงคำอย่าง ORIOR มีความหมายว่า ผุดขึ้น มันก็เช่นเดียวกัน เปรียบกับตะวัน ที่จะผุดขึ้นที่เส้นขอบฟ้า พอพูดที่ทางกลับกัน Occidentภาษาลาติน คือคำว่า OCCIDO ก็มีความหใมายว่า ตก จึงได้ใช้เรียกอีกฝั่ง นั่นก็เป็นทาง ฝั่งตะวันตกครับผม

มาถึงทางตะวันออกก็จะ มักได้ยินกับคำ ที่คนใช้แบ่งกันว่า ตะวันออกใกล้ หรือว่าจะ ตะวันออกกลาง และก็เป็น ตะวันออกไกล ซึ่งได้อิงจาก ตำแหน่งที่ตั้ง ของทางทวีปเอเชีย  ไม่ก้จะแบ่ง แบบเป็น กลุ่มสังคมวัฒนธรรม รวมไปถึง ชาติพันธุ์ อย่างเช่นเป็น เอเชียตะวันออก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้  เอเชียตะวันตก และเอเชียใต้

หากย้อนไปที่ สมัยโรมัน ได้ใช้คำว่า Orient ตอนช่วงรัชสมัย จักรพรรดิไดโอคลีเชียนซึ่งได้จัดตั้ง มณฑลตะวันออก ขึ้นมานั่นเองครับ พอเข้าในสมัย ศตวรรษที่ 4 ได้ทำการจัดตั้ง นายกองประจำกำลัง ของทางตะวันออก นิคมโรมันด้านตะวันออก ได้ขยายไปไกล

ยันบริเวณที่ในปัจจุบันนี้ คือประเทศซีเรียเลยครับ ดังนั้นแล้ว หากพูดในมุมมอง Eurocentric-โรมัน คำอย่างOrient นั้นจะคือการ ที่ใช้เรียกเหล่า เอเชียส่วนที่คือ ตะวันออกใกล้ครับ จะถือได้ว่านี่คือ ดินแดนเอเชียตะวันตก ก็จะมีตั้งแต่ อนาโตเลีย อียิปต์ และก็ตุรกีครับ

จะสังเกตได้ว่า ตะวันออกนั้นจะ ไม่ได้ไปหมายถึง ตรงเอเชีย ตำแหน่งทิศตะวันออกจริง ๆ แต่ทว่ามันกลับ ไปหมายถึง คนในแผ่นดิน และก็ด้านวัฒนธรรม ที่อยู่นอกเหนือจาก โซนยุโรปออกไป ไปยังแผ่นดินที่ กว้างใหญ่มากกว่า

ส่วนมากแล้วนั้น จะอยู่ทางทิศ ตะวันออกซะด้วยครับ เพราะได้เหมารวม ทางทวีปแอฟริกาเหนือ ไปด้วยนั่นเอง บางครั้งอาจโค้งไกล ไปถึงตะวันตกยัน โมรอกโกเลยครับ นึกภาพเวลาเดินทาง จากยุโรปแล้วออกไป

ในทางด้านตะวันออก ไปยังรอบของ ทะเลเมติเตอเรเนียน แล้วลงยังอียิปต์ จากนั้นก็ลองย้อนกลับ ทางตะวันตกจนถึงโมรอกโก สิ่งคล้ายคลึงของ วัฒนธรรมที่มีพวกนี้ ที่คนยุโรปนั้นจะ เรียกOriental ตอนช่วงยุคแรกครับ

โลกตะวันออก กับช่วงเวลาที่ผ่านไป และก็ความหมายของมัน

พอเมื่อผ่านพ้น เวลาที่เดินไปเรื่อย ๆ แล้วนั้น ความหมายที่บอกถึง คำพว่าตะวันออก หรือorient ก็ได้เริ่มแผ่ขยาย ไปไกลเกินกว่า แค่ที่มณฑลซีเรีย หรือแค่เอเชีย หรือทางแอฟริกาแล้ว ก็นั่นเพราะว่า คนยุโรปนั้นได้ มีการเดินทาง

เข้ามาถึงใน ทวีปเอเชียนี้ ได้อย่างลึกและไกลขึ้น ถึงกระทั่งเดินเรือไป สุดมหาสมุทรแปซิฟิก ที่เป็นดินแดนที่ คนตะวันตกเรียกกันว่า Eurocentric ที่แปลว่าตะวันออกไกล หรือเรียกตรงตัวก็  far east พอถึงศตวรรษที่ 19 คำว่า “ตะวันออก” ก็หมายรวมถึง อินเดียและดินแดนบางส่วนของประเทศจีนชัดเจนมากขึ้น

พอมาถึงกลางศตวรรษ 20 ตะวันออกได้เปลี่ยน ในเรื่องของความหมาย อีกเล็กน้อยครับ เพราะได้สื่อไปใน ตะวันออกมากขึ้น ให้ความหมายนั้นแคบลง จะไปหมายถึง เอเชียกลางฝั่งตะวันออก เอเชียตะวันออก และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

และได้มีกระแส ที่จะฟื้นฟูความนิยม ที่ทางโลกตะวันออก สิ่งที่น่าหลงไหล อย่างพวกศิลปะวิฒนธรรม พวกลวดลายเฉพาะ ที่เป็นวัตถุของ ทางเอเชียอย่าง อินเดีย อียิปต์ โมรอกโก ซึ่งมีความนิยม คำว่าตะวันออก ก็เลยไปหมายรวมถึง แอฟริกาเหนือเข้าไปด้วย อีกนั่นเองครับ

ซีกโลกฝั่งตะวันออกที่น่าหลงไหล อารยธรรมที่สวยงามมากมาย

มาดูความน่าหลงไหล ของฝั่งซีกโลกตะวันออก มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง เริ่มจาก ฉากแสดงละครโอเปร่า ในเรื่องขลุ่ยวิเศษ Die Zauberflöte ซึ่งได้ Production ในปี 1815 จากทาง Karl Friedrich Schinkel ได้บรรยากาศใน อียิปต์แม้จะอยู่ ในแอฟริกา ก็ยังสื่อในความ โลกตะวันออกที่น่าหลงใหล กับเหล่าผู้คน ตอนช่วงศตวรรษ19

The Death of Sardanapalus ภาพวาดที่ วาดไว้โดย  Eugène Delacroix เค้านั้นคือ ศิลปะตะวันออกนิยม ได้นำภาพ กษัตริย์แห่งอัสซีเรีย ทรงสิ้นพระชนม์ มานำเสนอครับ

Madonna and Child Enthroned  โดยจิตรกรชือ  Gentile Bellini เรานั้นจะสังเกตได้ ว่าจะเห็น พรมแบบมุสลิม นั้นวางไว้อยู่ ใต้เท้าพระแม่มารี มันได้แสดงแนวคิด ตะวันออกนิยมแรกเลยทีเดียว ตอนสมัยศตวรรษที่ 15

ห้อง Round Chinese Cabinets ของทางพระราชวัง Schönbrunn ในกรุงเวียนนา นั้นได้ตกแต่งด้วยเซรามิก งานเครื่องเขิน และกระเบื้องเคลือบ จะมีศิลปะจีน กับแบบญี่ปุ่น ผสมผสานกันไป นัวว่าคือของหรูหรามีความน่าหลงใหล สุดๆ เลยด้วยใน ยุคสมัยนั้นครับ

โลกยุคหินเก่า

ขนมสุดแปลก