ประวัติอังกฤษ เรามาทำความรู้จักกับประเทศอังกฤษที่ถือว่ามีความเป็นมาอย่างยาวจะมีเป็นมาอย่างไร?

ประวัติอังกฤษ ถ้าหากพูดถึงประเทศที่ หลายคนไฝ่ฝันอยากไปซักครั้ง ที่ถือว่สเป็นหนึ่งในประเทศ ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ว่าจะเป็นด้านใดก็ตาม และคงเป็นประเทศอะไรไปไม่ได้ นั่นก็คือ ประเทศอังกฤษ เรามาทำความรู้จัก ข้อมูลของประเทศอังกฤษ ซึ่งถือว่าเป็นประเทศที่ มีขนาดใหญ่ที่สุดโดยที่ จะมีประชากรมากที่สุด ประวัติศาสตร์จีน

ถ้าเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ที่อยู่ในสหราชอาณาจักร ซึ่งในเรื่องของความเป็นมา หรือประวัติศาสตร์อังกฤษ ได้เริ่มต้นขึ้นจากการตั้งถิ่นฐาน เมื่อหลายพันปีมาแล้ว ซึ่งภูมิภาคในปัจจุบัน อังกฤษที่อยู่ภายใน สหราชอาณาจักรนั้น เป็นที่ตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ อันเดอร์ธอลราว 230,000 ปี โดยที่มนุษย์โฮโมเซเพียน ที่เป็นมนุษย์สมัยใหม่

ได้มีการตั้งถิ่นฐานประมาณ 29,000 ปีมา และได้อยู่ต่อเนื่องกันโดยเริ่มขึ้นในราวๆ 11,000 ปี โดยจะอยู่ในปลายยุคน้ำแข็ง ซึ่งในบริเวณภูมิภาคนี้ ได้มีร่องรอยของมนุษย์ ของยุตสมัยต่างๆ ที่ได้เข้ามาตั้งถิ่นฐาน ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ ในยุคหินกลาง ยุคหินใหม่ และในยุคสัมริด ซึ่งเฟิร์ธออฟฟอร์ธนั้น จะเป็นที่ตั้งถิ่นฐานของชนเคลต์

ที่เป็นกลุ่มชนที่เรียกกันว่า บริเตน Briton หรือเผ่าเบลแจ ในปี ค.ศ. 43 ได้มีชาวโรมันที่เริ่มเข้ามา รุกรานบริเตน โรมัน ในการปกครองจังหวัด จนมาถึงช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 5 เรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้กับ ความเป็นมาของอังกฤษ

ประวัติอังกฤษ กับเรื่องราวในสมัยกลางหรือยุคกลางในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 5 ถึงคริสต์ศตวรรษที่ 15

ยุคกลางของอังกฤษ จะเป็นช่วงเวลาประวัติศาสตร์ ของทางยุโรปโดจมีตั้งแต่ ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 5 ไปจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 15 โดยจะเริ่มมีการนับตั้งแต่ การล่มสลายลงของ จักรวรรดิโรมันตะวันตก จนไปถึงจุดเริ่มตั้นของ สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา และยุคแห่งการสำรวจ โดยการนำไปสู่สมัยใหม่ ซึ่งในช่วงยุคสมัยกลาง

จะเป็นช่วงเวลากลางของ การเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ นั่นก็คือคือ สมัยคลาสสิก สมัยกลาง และสมัยใหม่ ซึ่งในยุสมัยกลางนั้นได้มีการ แบ่งออกเป็น 2 ช่วงเวลาด้วยกัน ซึ่งจะประกอบไปด้วย ต้นสมัยกลาง Early Middle Age สมัยกลางยุครุ่งโรจน์ High Middle Ages และปลายสมัยกลาง Late Middle Ages
โดยในยุคกลางตอนต้น

จะเป็รการลดลงของประชากร รวมไปถึงการหดตัวของเมือง ที่มีการรุกรานจากอนารยชน โดยจะเริ่มตั้งแต่ในยุค โบราณตอนปลายที่ ได้ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว โดยที่เหล่าผู้บุกรุก ไดเเข้าตั้งอาณาจักรของตน ซึ่งเป็นในส่วนที่เหลือ ของจักรวรรดิโรมันตะวันตก ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 7

ที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของ จักรวรรดิโรมันตะวันออก จนได้กลายไปเป็น จักรวรรดิอิสลาม โดยที่ถูกยึดครองโดยผู้ สืบทอดของนบีมุฮัมมัด โดยมีการเปลี่ยนแปลง ทางสังคมและโครงสร้างต่างๆ ทางการเมืองมากมาย แต่ก็ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป จากยุคโบราณคลาสสิค

เมืองที่มีความสำคัญอย่างมากของอังกฤษและมีขนาดเศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่จะเป็นที่ใด?

หลังจากที่ได้รุ้จักกับ ความเป็นมาของอังกฤษ และในช่วงเวลาต่างๆไปแล้ว เรามาทำความรู้จักกับ เมืองหลวงของอังกฤษ ที่ถือว่ามีความสำคัญ ต่อประเทศอังกฤษอย่างมาก นั่นก็คือเมือง ลอนดอน ด้วยการที่มีขนาดของเศรษฐกิจ ที่มีมูลค่าเท่ากับ 20.8 ล้านล้านบาท ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ลอนดอน มีความสำคัญอย่างมาก ของประเทศอังกฤษ

และสหราชอาณาจักร โดยที่ลอนดอนเป็นเมืองหลวง ของอังกฤษและสหราชอาณาจักร ที่ได้มีการก่อตั้งตั้งแต่ ในช่วง 1,000 ปีมาแล้ว ก่อนช่วงคริสต์ศักราช โดยในปัจจุบันลอนดอน มีมาไม่ต่ำกว่า 3,020 ปี โดยมีขนาดพื้นที่ 1,572 ตารางกิโลเมตร จะมีขนาดที่ใกล้เคียงกับ กรุงเทพมหานคร รวมถึงลอนดอนจะมี ขนาดของเศรษฐกิจ

ที่ใหญ่กว่าขนาดเศรษฐกิจของไทย ทั้งประเทศอยู่ที่ 16.2 ล้านล้านบาท รวมไปถึงมูลค่าเศรษฐกิจ ที่ใหญ่กว่าขนาดเศรษฐกิจของ ประเทศของโปแลนด์ สวีเดน และเบลเยียม ในปัจจุบันกรุงลอนดอน มีจำนวนประชากรประมาณ 8.9 ล้านคน

และมีอุตสาหกรรมที่ ถือว่ามีความโดดเด่น ด้วยอุตสาหกรรมการเงิน จึงทำให้ปัจจุบันลอนดอน เป็นหนึ่งในศูนย์กลางของการเงินที่สำคัญมากที่สุด ของโลกเลยก็ว่าได้และยังเป็น เมืองอังกฤษน่าเที่ยว อีกด้วย

ประวัติอังกฤษ

สถานที่ที่ความความสำคัญของอังกฤษและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำของโลก

สิ่งปลุกสร้างของอังกฤษ ที่เป็น สถานที่สำคัญอังกฤษ ที่มีชื่อเสียงอย่างมาก นัานก็คือ พระราชวังบัคกิ้งแฮม Buckingham Palace ที่นี่จะมีสถาปัตยกรรม รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยว ชั้นนำของโลกอีกด้วย โดยที่นักท่องเที่ยวทั่วโลก ต่างเดินทางมาชมความยิ่งใหญ่ และความอลังการของที่นี่ และยังเป็นพระราชฐานที่ มีชื่อเสียงที่สุดของบริเวณ

รวมไปถึงการเป็นที่ประทับ ของสมเด็จพระราชินี นาถอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งหลายปีมานี้ พระราชวังได้เปิดให้นักท่องเที่ยว สามารถเข้าไปเยี่ยมชม ความงดงานได้อย่างไกล้ชิด และนักท่องเที่ยวทุกท่าน จะสามารถศึกษาความเป็นมา ของราชวงศ์อังกฤษได้อีกด้วย ซึ่งพระราชฐานได้อย่าง พระราชทานเป็นทางการ ของราชวงศ์อังกฤษ

ตั้งแต่ในปั ค.ศ. 1837 และได้กลายเป็นศูนย์กลาง ของระบบราชาธิปไตย โดยจะใช้ประกอบพิธีกรรม รวมไปถึงการจัดงาน ของสมาคมที่หรูหรา และยังเป็นที่สำหรับ จัดงานเลี้ยงต้อนรับบุคคล ที่สำคัญของราชวงศ์อีกด้วย โดยตั้งอยู่ที่ใจกลางเมือง จึงทำให้มีความโดดเด่น

โดยในแต่ละปีนั้นพระราชวัง จะเปิดให้เข้าชมอยุ่ 2 เดือน โดยจะเป็นในช่วง สิงหาคม – กันยายน ซึ่งจุดเด่นของการเยี่ยมชม พระราชวังแห่งนี้ จะเป็นการรอชมพิธี ในการเปลี่ยนเวรยามของทหาร รักษาพระองค์ Changing the Guard ที่ท่านไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน

สิ่งปลูกสร้างที่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของกรุงลอนดอนและประเทศอังกฤษ

สัญลักษณะของอังกฤษ ที่ถือว่ามีชื่อเสียงอย่างมาก และทุกคนรู้จักกันดี นั่นก็คือ Tower Bridge ซึ่งเป็นสะพานที่ขึ้นชื่อว่า เป็นสัญลักษณ์ของกรุงลอนดอน โดยจะเป็นสะพานยก และสะพานแขวนที่อยู่รวมกัน โดยจะมีหอคอยอยู่ 2 หอ ที่ทำให้สะพานแห่งนี้ มีชื่อเป็นอย่างมาก โดยเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า สะพานหอคอย โดยสะพานแห่งนี้จะมีสีขาวฟ้า

โดยใช้ข้ามแม่น้ำเทมส์ โดยมีชื่อว่า Tower Bridge และเป็นสะพานที่มีอายุมากกว่า 120 ปี โดยสร้างขึ้นมาเพื่อในการ ใช้เป็นเส้นทางของลอนดอน โดยเปิดใช้งานในปี ค.ศ.1894 และในการก่อสร้างนั้น จะใช้เวลานานถึง 8 ปี ความโดดเด่นของสะพานนี้ ก็จะอยู่ที่หอคอยคู่ ที่เป็นเเบบสถาปัตยกรรม โกธิคที่มีความสวยงามอย่างมาก

และยังช่วยทำให้มีทิวทัศน์ ที่มีความสวยงามอย่างมาก โดยจะมีการยกสะพานขึ้น เพื่อให้เรือสามารถเเล่นได้ 50 ครั้งต่อวัน ซึ่งในส่วนบนชั้นสองของสะพาน ได้มีการเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ สำหรับขึ้นไปชมนิทรรศการ รวมไปถึงการจัดแสดง ประวัติการก่อสร้างไว้อีกด้วย

และนักท่องเที่ยวยังสามารถ เปิดไปดูห้องเครื่องยนต์ ที่ใช้เปิดปิดสะพานได้อีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ ของประเทศอังกฤษ และกรุงลอนดอนอีกด้วย โดยจะมีนักท่องเที่ยวทั่วโลก เกินทางมาอย่างไม่ขาดสาย จนทำให้สะพานแห่งนี้ มีชื่อเสียงอย่างมาก

ของฝากรอบโลก

ประวัติอังกฤษ